5 เหตุผลที่ทำให้ REMY เป็นอาหารสุนัขที่คู่ควรกับ “ลูกรัก” ของคุณ

 


5 เหตุผลที่ทำให้ REMY เป็นอาหารสุนัขที่คู่ควรกับ “ลูกรัก” ของคุณ
เชื่อว่าผู้ที่รักสุนัขทุก ๆ ท่าน ย่อมต้องการสิ่งที่ดีที่สุด มอบให้กับสุนัขที่คุณรักไม่ต่างจากลูกแท้ ๆ ต่อจากนี้เราจะนำคุณมาทำความรู้จักกับ REMY อาหารสุนัขเกรดพรีเมียม ที่จะเข้ามาทำให้ทุก ๆ มื้ออาหาร กลายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดอย่างที่คุณได้คาดหวังเอาไว้ เพื่อให้คุณเข้าใจว่าเพราะอะไรถึงต้องเลือก REMY เรามี 5 เหตุผลดี ๆ มาฝาก ดังต่อไปนี้

 

1.เป็นอาหารสุนัขเกรดพรีเมียม ที่ผลิตจากผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ


อาหารสุนัข REMY เกิดจากการจับมือกันของ “โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ” โรงพยาบาลสัตว์ชั้นแนวหน้าของประเทศไทย และ “Pataya Food Group” ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์อาหารชั้นนำอย่าง Nautilus ที่ผสมผสานความเชี่ยวชาญทั้งในด้าน “การดูแลสุขภาพสัตว์” และ “การผลิตอาหารในระดับโลก” เข้าด้วยกัน จนกลายเป็นอาหารสัตว์เกรดพรีเมียม ที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้รับการยอมรับจากทั่วทุกมุมโลก

 

2.เป็นอาหารสุนัขที่ผลิตจากวัตถุดิบ Human Grade


หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินคำว่า “อย่าเอาอาหารคนให้สุนัขกิน” นั่นก็เป็นคำกล่าวที่ถูกต้องแล้ว เพราะอาหารของมนุษย์ผ่านการปรุงรสชาติ ซึ่งในส่วนของเครื่องปรุงต่าง ๆ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของสุนัข ซึ่ง REMY เป็นอาหารสุนัขที่มีเกรดเดียวกับอาหารที่มนุษย์กิน ไม่ใช่ว่าเป็นการนำเอาอาหารคนมาให้สุนัข แต่เป็นการเลือกเอาวัตถุดิบที่ดีที่สุดมาให้กับสุนัขกิน ไม่ใช่นำเอาของเหลือจากอุตสาหกรรมอาหารมนุษย์ มาทำเป็นอาหารสุนัขอย่างที่พบได้ทั่วไปตามท้องตลาด

 

3.มีหลายสูตรให้เลือก เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด


เพราะความต้องการของสุนัขแต่ละตัวนั้นแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นทั้ง อายุ สายพันธุ์ ขนาด รวมไปถึง ปัญหาสุขภาพบางอย่าง ทำให้การเลือกอาหารสุนัขไม่ใช่เรื่องที่จะเลือก “อะไรก็ได้” เพียงเท่านั้น ด้วยสาเหตุนี้ทำให้ REMY ได้ผลิตอาหารและขนมสำหรับสุนัขออกมาหลากหลายสูตรด้วยกัน เพื่อให้ตรงต่อความต้องการของสุนัขของคุณมากที่สุด อาทิ สูตรเพิ่มภูมิคุ้มกัน , สูตรเสริมกระดูกและข้อ และ สูตรบำรุงผิวหนัง เป็นต้น

 

4.ไม่เติมเกลือ ไม่เติมน้ำตาล ไม่ใส่วัตถุกันเสีย


อาหารสุนัขจาก REMY จะมุ่งเน้นเฉพาะสิ่งที่สุนัขต้องการเพียงเท่านั้น และเลือกเฉพาะวัตถุดิบจากธรรมชาติ ที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่อสุนัข โดยเนื้อปลาที่เลือกใช้ก็เป็นปลาที่มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ เนื่องจากมีกรดโอเมก้าที่มากกว่า แถมยังไม่มีสารเร่งตัวอย่างที่พบในปลาเลี้ยงอีกด้วย และ ยังไม่เติมเกลือ ไม่เติมน้ำตาล ไม่ใส่วัตถุกันเสีย รวมถึงส่วนผสมอื่น ๆ ที่ส่งผลเสียต่อสุนัข ทำให้แม้แต่สุนัขที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรังบางอย่าง ก็สามารถทานได้ภายในปริมาณที่เหมาะสม

 

5.เสริมคุณค่าทางสารอาหาร คูณ 2


สำหรับเหตุผลสุดท้ายที่คุณเลือกซื้ออาหารสุนัข REMY ก็จะเป็นในส่วนของการมีคุณค่าทางอาหาร ที่สำคัญต่อสุนัขอยู่อย่างครบถ้วน พร้อมกับยังเพิ่มสารอาหารเสริมบางอย่าง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้สุขภาพของสุนัขแข็งแรงมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น สารต้านอนุมูลอิสระอย่าง ซึ่งจะช่วยในระดับภูมิคุ้มกัน วิตามิน E ที่มีส่วนช่วยบำรุงขนให้เงางาม หรือ แคลเซียมที่ช่วยบำรุงกระดูกและข้อ เป็นต้น

 


คนที่รักสุนัขเหมือนลูกแท้ ๆ ย่อมรู้ดีว่า เมื่อเจ้าลูกรักของคุณมีอาการเจ็บป่วย นั้นสร้างความวิตกกังวลมากเพียงใด ดังนั้นถึงเวลาแล้วหรือยัง กับการสร้างสุขภาพของสุนัขของคุณให้แข็งแรงจากภายใน REMY เป็นอาหารสุนัขที่เหมาะกับสุนัขทุกขนาด ทุกวัย ทุกสายพันธุ์ ด้วยกระบวนการผลิตที่ได้รับมาตรฐานระดับโลก จึงทำให้เป็นอาหารที่คุณสามารถไว้วางใจได้อย่างแน่นอน นอกจากผลิตภัณฑ์ที่เป็นอาหาร ก็ยังมีในส่วนของขนมสุนัขให้เลือกซื้อกันอีกด้วย สามารถซื้อสินค้าได้จากร้านขายอาหารสัตว์ หรือ อาหารสุนัข โรงพยาบาลสัตว์ใกล้บ้านคุณ

ความสำคัญของการดูแลผู้สูงอายุ: ความอบอุ่นที่ไม่มีวันเก่า

การดูแล ผู้สูงอายุ เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรให้ความใส่ใจ ไม่เพียงแต่เป็นการตอบแทนบุญคุณที่ท่านได้เลี้ยงดูเรามา แต่ยังเป็นการสร้างสังคมที่อบอุ่นและมีความเป็นธรรม การดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เพียงแค่การให้ความช่วยเหลือในชีวิตประจำวัน แต่ยังหมายถึงการมอบความรัก ความเคารพ และการให้ความสำคัญในทุกๆ ด้านของชีวิตท่าน มาดูกันว่าการดูแลผู้สูงอายุมีความสำคัญอย่างไรบ้าง
 

 

 

1. การดูแลสุขภาพร่างกาย

เมื่อคนเราเข้าสู่วัยชรา การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายย่อมเกิดขึ้น การดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บและยืดอายุขัยให้ยืนยาว การตรวจสุขภาพเป็นประจำ การออกกำลังกายที่เหมาะสม เช่น การเดินเล่นหรือโยคะเบาๆ และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ล้วนเป็นปัจจัยที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีให้กับผู้สูงอายุ

 

 

2. การดูแลสุขภาพจิตใจ

สุขภาพจิตใจของผู้สูงอายุเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม การมีคนในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงที่คอยสนับสนุนและให้กำลังใจ สามารถช่วยลดความเครียดและความเหงาได้ นอกจากนี้ กิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นสมอง เช่น การอ่านหนังสือ เล่นเกมฝึกสมอง หรือทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบ ยังช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกมีคุณค่าและมีความสุขในชีวิตประจำวัน

 

 

3. การจัดการความปลอดภัย

ความปลอดภัยในชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ การปรับสภาพแวดล้อมในบ้าน เช่น การติดตั้งราวจับในห้องน้ำ ลบขอบเลื่อนที่อาจทำให้ล้ม และจัดแสงสว่างที่เพียงพอ สามารถช่วยป้องกันอุบัติเหตุได้ นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยีช่วยเหลือ เช่น เครื่องตรวจจับการล้ม หรือเครื่องช่วยฟัง ยังช่วยเสริมความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี

 

 

4. การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล

การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับผู้สูงอายุ การช่วยเหลือในการอาบน้ำ ดูแลผิวพรรณ และดูแลช่องปาก จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกสบายตัวและมีสุขภาพที่ดี นอกจากนี้ การใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น การเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สะอาดหรือการดูแลความสะอาดของที่อยู่อาศัย ยังเป็นการแสดงออกถึงความรักและความห่วงใยที่มีต่อท่าน

 

 

5. การจัดการยารักษาโรค

ผู้สูงอายุหลายท่านมักต้องรับประทานยารักษาโรคต่างๆ การจัดการยาอย่างมีระเบียบและการเฝ้าระวังผลข้างเคียงของยาเป็นสิ่งสำคัญ การช่วยเตือนและดูแลให้ผู้สูงอายุกินยาตามคำสั่งแพทย์จะช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

 

 

6. การส่งเสริมความเป็นอิสระ

การส่งเสริมความเป็นอิสระให้กับผู้สูงอายุเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและความพึงพอใจในชีวิต การฝึกทักษะที่จำเป็น เช่น การเตรียมอาหารหรือการทำความสะอาด การให้การสนับสนุนในการตัดสินใจและการทำกิจกรรมต่างๆ เอง จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกมีคุณค่าและเป็นส่วนหนึ่งของสังคม

 

 

 

 

สรุป

การดูแลผู้สูงอายุเป็นการแสดงออกถึงความรัก ผู้สูงอายุ ความเคารพ และความรับผิดชอบที่มีต่อบุพการีและสังคม การให้ความสำคัญทั้งในด้านสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิตใจ ความปลอดภัย สุขอนามัยส่วนบุคคล การจัดการยา และการส่งเสริมความเป็นอิสระ จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีชีวิตที่มีคุณภาพและมีความสุขในวัยชรา เราทุกคนมีหน้าที่ในการดูแลและให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุ เพราะความอบอุ่นและความรักที่มอบให้จะไม่มีวันเก่าไปตามกาลเวลา

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการ ปลูกผมผู้หญิง

ในขณะที่คนส่วนใหญ่มักคุ้นเคยกับการผ่าตัดปลูกผมในผู้ชายมากกว่า โดยเฉพาะในกรณีที่ประสบปัญหาภาวะผมร่วงจากพันธุกรรมหรือที่เรียกว่า Androgenetic Alopecia (AGA) ปัจจุบันก็มีความสนใจเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการปลูกผมผู้หญิง เพราะนอกจากจะช่วยปรับกรอบหน้าแล้วยังเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดอีกด้วย สำหรับคุณผู้หญิงที่สนใจการผ่าตัดปลูกผม เรามาเรียนรู้เพิ่มเติมในบทความนี้กันเถอะ
 

 

 

การปลูกผมผู้หญิง: ควรปรึกษาแพทย์หากมีภาวะต่อไปนี้


1. ภาวะผมร่วงที่ยังคงกำเริบและยังไม่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์
หากคุณผู้หญิงมีภาวะผมร่วงที่ยังคงกำเริบหรือยังไม่ได้รับการวินิจฉัยแน่ชัดจากแพทย์เฉพาะทาง แพทย์มักไม่แนะนำให้ปลูกผมในทันที ควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาสาเหตุที่แท้จริงก่อน เพื่อให้ผลการผ่าตัดออกมาดีที่สุด
2. ผมด้านหลังบริเวณหนังศีรษะบาง
การผ่าตัดปลูกผมสำหรับผู้หญิงมีขั้นตอนที่คล้ายกับผู้ชาย คือการย้ายรากผมจากบริเวณท้ายทอยไปยังบริเวณที่ผมบาง เช่น ด้านหน้า (กรอบหน้า) หรือกลางศีรษะ ดังนั้นความหนาแน่นของผมบริเวณท้ายทอยจึงต้องมีมากพอและแข็งแรง หากผมบริเวณนี้บางหรือไม่แข็งแรง อาจต้องตรวจหาสาเหตุอื่น ๆ เช่น ไทรอยด์ผิดปกติ การขาดวิตามินดี หรือการขาดธาตุเหล็ก เป็นต้น

 

 

การผ่าตัดปลูกผมในผู้หญิงช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง?


สำหรับคุณผู้หญิงที่แพทย์ประเมินแล้วว่าสามารถเข้ารับการผ่าตัดปลูกผมได้ การผ่าตัดนี้สามารถแก้ไขปัญหาต่อไปนี้ได้:
- ภาวะหน้าผากสูงหรือหน้าผากกว้าง
- ภาวะแนวผมหายไปตั้งแต่กำเนิด (Triangular alopecia)
- การปลูกผมทับแผลเป็นจากการดึงหน้า ดึงคิ้ว หรือแผลเป็นจากสาเหตุต่าง ๆ บริเวณแนวผม
- ภาวะผมบางกลางศีรษะในรายที่มีผมบางแบบกรรมพันธุ์

 

 

 

 

เทคนิคการผ่าตัดปลูกผมผู้หญิง


1. FUT (Follicular Unit Transplantation) – การผ่าตัดปลูกผมแบบกรีด
2. FUE (Follicular Unit Excision) – การผ่าตัดปลูกผมแบบเจาะ
- Shaven FUE (แบบโกนผมด้านหลัง)
- ปลูกผมผู้หญิง Non-shaven FUE (แบบไม่โกนผมด้านหลัง)
- Long-hair FUE (แบบปลูกผมยาว)

 

 

บทสรุป


เนื่องจากแต่ละเทคนิคมีข้อดี ข้อเสีย และข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป การเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับแต่ละคนขึ้นอยู่กับปริมาณกราฟท์ที่ต้องใช้และความต้องการของคนไข้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับข้อมูลอย่างละเอียดและเลือกเทคนิคที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณผู้หญิงที่สนใจการผ่าตัดปลูกผม

 

 

คำถามที่พบบ่อย


1.ต้องใช้กี่กราฟท์ในการปลูกผม?
จำนวนกราฟท์ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ที่ต้องการปลูกและแนวผมที่แพทย์ออกแบบ แนะนำให้มาปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินแนวผมและจำนวนกราฟท์ที่ต้องใช้โดยละเอียด

2.ต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะกลับมาไว้ทรงผมได้ตามปกติ?
การผ่าตัดเทคนิค Non-shaven FUE หรือ Long-hair FUE ที่ไม่ต้องโกนผมด้านหลังจะช่วยให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้เร็วกว่า อย่างไรก็ตามการทำ Shaven FUE นั้นมีราคาถูกกว่าและการกระจายตัวของแผลเป็นด้านหลังดีกว่า

3.การปลูกผมผู้หญิงใช้เวลานานกี่ชั่วโมง?
หากเป็นการผ่าตัดแบบ Shaven FUE อาจใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง ส่วนแบบ Non-shaven FUE กับ Long-hair FUE อาจใช้เวลา 7-8 ชั่วโมงเนื่องจากมีความซับซ้อนกว่า

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15